สมุนไพรกานพลู

ชื่อสมุนไพร : กานพลู
ชื่อสามัญ (ชื่อภาษาอังกฤษ) : Clove
ชื่ออื่น : จันจี่ (เหนือ) ดอกจันทร์
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Syzygium aromaticum (L.) Merr. & L.M. Perry
ชื่อวงศ์ : Myrtaceae
ส่วนที่ใช้ : เปลือกต้น ใบ ดอกตูม ผล น้ำมันหอมระเหยกานพลุ
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ :
- ไม้ต้น สูง 9-12 เมตร อาจสูงได้ถึง 20 เมตร เรือนยอดเป็นรูปกรวยคว่ำ แตกกิ่งต่ำ
- ลำต้นตั้งตรง เปลือกเรียบ สีเทา
- ใบเดี่ยว เรียงตรงข้าม รูปใบหอก รูปรี หรือรูปไข่กลับแคบๆ กว้าง 8-11 ซม. ยาว 32-37 ซม. ปลายแหลมหรือเรียวแหลม โคนสอบแคบ ขอบเรียบ แผ่นใบด้านบนเป็นมัน มีต่อมน้ำมันมาก เส้นแขนงใบข้างละ 15-20 เส้น ปลายเส้นโค้งจรดกับเส้นถัดไปก่อนถึงขอบใบ ก้านใบยาว 1-2.5 ซม. ช่อดอกแบบช่อเชิงหลั่น ออกที่ปลายยอด ยาวประมาณ 5 ซม. ก้านช่อดอกสั้นมาก แต่อาจยาวได้ถึง 1 ซม. ใบประดับรูปสามเหลี่ยม ยาว 2-3 มม.
- กลีบเลี้ยง 4 กลีบ โคนติดกันเป็นหลอดยาว 5-7 มม. เมื่อเป็นผลขยายออกเป็นรูปกรวยยาวประมาณ 1 ซม. ปลายแยกเป็นแฉกรูปไข่ ยาว 3-4 มม.
- กลีบดอก 4 กลีบ รูปขอบขนานหรือกลม ยาว 7-8 มม. มีต่อมมน้ำมันมาก ร่วงง่าย เกสรเพศผู้จำนวนมาก ร่วงง่าย ก้านชูอับเรณูยาวประมาณ 7 มม.
- ก้านเกสรเพศเมียยาวประมาณ 4 มม.
- ผล รูปไข่กลับกามรูปรี ยาว 2-2.5 ซม. แก่จัดสีแดง มี 1 เมล็ด
กานพลูเป็นพรรณไม้พื้นเมืองของหมู่เกาะโมลุกกะ น้ำไปปลูกในเขตร้อนทั่วโลก ในปะเทศไทยนำมาปลูกบ้างแต่ไม่แพร่หลาย ชอบขึ้นในดินร่วนซุย การระบายน้ำดี ความชื้นสูง ฝนตกชุก ขึ้นได้ดีบนพื้นที่ราบถึงที่สูงจากระดับน้ำทะเล 800-900 เมตร
สรรพคุณกานพลู
กานพลู เรานิยมนำมาใช้ประโยชน์ได้หลายส่วน ไม่ว่าจะเป็น ดอกตูม ผล ต้น เปลือก ใบ รวมไปถึงน้ำมันหอมระเหย ในบัญชียาสมุนไพร ตามประกาศคณะกรรมการแห่งชาติด้านยา (ฉบับที่ 5) มีการใช้กานพลูเป็นยารักษาอาการทางระบบไหลเวียนโลหิต (แก้ลม) โดยปรากฏอยู่ในตำรับยาหลายชนิด ซึ่งได้แก่ ยาหอมเทพจิตร ยาหอมนวโกฐ ซึ่งจะมีส่วนประกอบของกานพลูร่วมกับสมุนไพรชนิดอื่นๆ รวมอยู่ด้วย ซึ่งมีสรรพคุณช่วยแก้ลมวิงเวียน อาหารหน้ามืดตาลาย ใจสั่น คลื่นไส้อาเจียน และยังมีการใช้กานพลูเป็นยารักษากลุ่มอาการทางระบบอาหาร ซึ่งประกอบไปด้วย ยาธาตุบรรจบ ยาประสะกานพลู ซึ่งจะช่วยแก้อาการท้องอืดท้องเฟ้อ จุกเสียด อาหารไม่ย่อยเป็นต้น
ตำรายาไทย ดอก รสเผ็ด กระจายเสมหะ แก้เสมหะเหนียว แก้เลือดออกตามไรฟัน แก้ปวดฟัน ดับกลิ่นปาก แก้หืด เป็นยาทำให้ร้อนเมื่อถูกผิวหนังทำให้ชา เป็นยาฆ่าเชื้อ แก้ปวดฟัน แก้รำมะนาด แก้ปวดท้อง มวนในลำไส้ แก้ลม แก้เหน็บชา แก้พิษโลหิต พิษน้ำเหลือง ขับน้ำคาวปลา ทำอุจจาระให้ปกติ แก้ธาตุทั้ง 4 พิการ แก้ปวดท้อง แก้ท้องอืด อาหารไม่ย่อย คลื่นไส้อาเจียน แก้จุกเสียด แก้ท้องเสีย ขับผายลม กดลมให้ลงสู่เบื้องต่ำ แก้สะอึก แก้ซางต่างๆ ขับระดู น้ำมันกานพลู (Clove oil) เป็นยาชาเฉพาะที่ แก้ปวดฟัน โดยใช้สำสีชุบนำมาอุดที่ฟัน ระงับการกระตุก ตะคริว ขับผายลม แก้ปวดท้อง แก้ท้องอืด ผสมยากลั้วคอ แต่งกลิ่นอาหาร แต่กลิ่นสบู่ ยาสีฟัน ดับกลิ่นปาก ดับกลิ่นเหล้า ไล่ยุง
ตำรายาไทย : มีการใช้กานพลูในหลายตำรับ ตัวอย่างเช่น ใน ”พิกัดตรีพิษจักร” คือการจำกัดจำนวนตัวยาที่มีรสซึมซาบไวดังกงจักร 3 อย่าง มี ผลผักชีล้อม ผลจันทน์เทศ และกานพลู สรรพคุณแก้ลม แก้พิษเลือด แก้ธาตุพิการ บำรุงโลหิต ”พิกัดตรีคันธวาต” คือการจำกัดจำนวนตัวยาที่มีกลิ่นหอมแก้ลม 3 อย่าง มี ผลเร่วใหญ่ ผลจันทน์เทศ และกานพลู มีสรรพคุณ แก้ธาตุพิการ แก้ไข้อันเกิดแต่ดี แก้จุกเสียด
บัญชียาจากสมุนไพร: ที่มีการใช้ตามองค์ความรู้ดั้งเดิม ตามประกาศ คณะกรรมการแห่งชาติด้านยา (ฉบับที่ 5) มีการใช้กานพลู ในยารักษากลุ่มอาการทางระบบไหลเวียนโลหิต (แก้ลม) ปรากฏในตำรับ”ยาหอมเทพจิตร” และตำรับ ”ยาหอมนวโกฐ” โดยมีส่วนประกอบของกานพลูร่วมกับสมุนไพรชนิดอื่นๆ ในตำรับ มีสรรพคุณในการแก้ลมวิงเวียน แก้อาการหน้ามืด ตาลาย ใจสั่น คลื่นเหียน อาเจียน แก้ลมจุกแน่นในท้อง ตำรับยารักษากลุ่มอาการทางระบบอาหาร ประกอบด้วย “ยาธาตุบรรจบ” มีส่วนประกอบของกานพลูร่วมกับสมุนไพรชนิดอื่นๆ ในตำรับ มีสรรพคุณบรรเทาอาการท้องอืดเฟ้อ และอาการท้องเสียที่ไม่เกิดจากการติดเชื้อ และตำรับ “ยาประสะกานพลู” มีกานพลูเป็นองค์ประกอบหลัก และมีสมุนไพรชนิดอื่นๆในตำรับ มีสรรพคุณบรรเทาอาการปวดท้อง จุกเสียด แน่นเฟ้อจากอาหารไม่ย่อย เนื่องจากธาตุไม่ปกติ
|
1. กานพลูมีสารประกอบอย่างฟีโนลิกในปริมาณมาก ซึ่งมีสรรพคุณช่วยเรื่องการต่อต้านอนุมูลอิสระในร่างกาย |
|
22. กานพลู ช่วยแก้ลม แก้ธาตุพิการ บำรุงธาตุ
23. ช่วยขับผายลม จับลมในลำไส้
24. เปลือกของต้นการพลู ช่วยแก้อาการปวดท้อง แก้ลม และช่วยคุมธาตุ
25. ผลของกานพลู นำมาใช้เป็นเครื่องเทศ ซึ่งเป็นตัวช่วยให้มีกลิ่นหอม
26. น้ำมันหอมระเหยของกานพลู (Essential oil) ช่วยฆ่าเชื้อโรคได้
27. น้ำมันหอมระเหยของกานพลู ช่วยทำให้ประสาทสงบ
28. น้ำมันหอมระเหยของกานพลูใช้เป็นยาระงับอาการชักกระตุก ด้วยน้ำมันหอมระเหยจากกานพลู
29. น้ำมันหอมระเหยของกานพลูช่วยทำให้ผิวหนังชา ด้วยการใช้น้ำมันหอมระเหยจากดอกกานพลู เพราะมีสาร Eugenol ซึ่งมีฤทธิ์เป็นยาชาเฉพาะที่
30. ดอกตูมกานพลู ช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรียได้หลายชนิด ไม่ว่าจะเป็นเชื้อบิดชนิดไม่มีตัว เชื้อหนอง เชื้อโรคไทฟอยด์ เป็นต้น
31. น้ำมันหอมระเหยจากกานพลูมีส่วนช่วยฆ่าเชื้อจากบาดแผล แมลงสัตว์กัดต่อยได้
32. งานวิจัยพบว่าน้ำมันกานพลู สามารถช่วยละลายลิ่มเลือดและช่วยลดการจับตัวเป็นก้อนได้
33. กานพลูเป็นหนึ่งในสมุนไพรที่นำมาใช้ในการย้อมสีผม ซึ่งจะให้สีผมที่ใกล้เคียงกับสีดำ
34. น้ำมันกานพลู (Clove oil) นำมาใช้ในการแต่งกลิ่นอาหาร แต่งกลิ่นสบู่ และยาสีฟัน
35. น้ำมันกานพลูมีฤทธิ์ในการช่วยไล่ยุงได้
36. ใช้เป็นส่วนผสมของสมุนไพรในตำรับยาต่างๆหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็น พิกัดตรีพิษจักร พิกัดตรีคันธวาต ยาหอมเทพจิต ยาหอมนวโกฐ ยาธาตุบรรจบ ยาประสะกานพลู เป็นต้น
37. กานพลู เป็นหนึ่งในสมุนไพรที่แนะนำให้รับประทานของหญิงให้นมบุตรเพราะช่วยเพิ่มการไหลเวียนของโลหิต และทำให้มีน้ำนมเพิ่มมากขึ้น

ดอกตูมกานพลู

ดอกและใบกานพลู

น้ำมันหอมระเหยกานพลู
การศึกษาทางเภสัชวิทยา
ฤทธิ์ต่อหัวใจและหลอดเลือด:
สูตรตำรับที่มีกานพลู พบว่าสามารถป้องกันหัวใจหนูจากการขาดเลือด โดยมีกลไกต้านอนุมูลอิสระ มีฤทธิ์ต้านการเกิดลิ่มเลือด ซึ่งจะทำให้เส้นเลือดอุดตัน และ มีฤทธิ์ป้องกันการเกาะกลุ่มของเกล็ดเลือด
ฤทธิ์ต้านจุลชีพ:
กานพลู มีฤทธิ์ต้านเชื้อแบคทีเรีย น้ำมันหอมระเหยมีฤทธิ์ต้านเชื้อแบคทีเรีย และเชื้อราหลายชนิด ผงยา สารสกัดแอลกอฮอล์ และสารสกัดน้ำมีฤทธิ์ต้านเชื้อแบคทีเรียหลายชนิด ได้แก่ เชื้อก่อหนอง (Staphylococcus aureus), เชื้อวัณโรค (Mycobacterium tuberculosis) สารสกัดแอลกอฮอล์ 50% มีฤทธิ์ต้านเชื้อราที่ก่อเกิดโรค ได้แก่ เชื้อกลาก (Trichophyton mentagrophytes), เชื้อรา Candida albicans, Saccharomyces pastorianus เป็นต้น สารสกัดเมทานอลมีฤทธิ์ยับยั้งเชื้อก่อเกิดแผลในกระเพาะอาหาร (Helicobacter pylori) สาร eugenol มีฤทธิ์ยับยั้งเชื้อก่อเกิดหนอง เชื้อก่อเกิดสิว (Propionibacterium acnes), เชื้อ Pseudomonas aeruginosa เชื้อก่อเกิดอุจจาระร่วง (Escherichia coli, Salmonella pullorum) และเชื้อกลาก (Microsporum canis, Trichophyton mentagrophytes, T. rubum) สารสกัดน้ำมีฤทธิ์ต้านเชื้อเริม ชนิด HSV-1, เชื้อหัด และเชื้อโปลิโอ ในหลอดทดลองและในหนู สารสำคัญที่มีฤทธิ์ต้านเชื้อเริมคือ สาร eugenol และสาร eugeniin น้ำมันหอมระเหยมีฤทธิ์ต้านเชื้อรา Candida albicans สาร kaempferol และ myricetin มีฤทธิ์ต้านเชื้อแบคทีเรียในช่องปาก
ฤทธิ์ต้านการอักเสบ:
สารสกัดเมทานอล และสาร eugenol มีฤทธิ์ต้านการอักเสบในสัตว์ทดลองโดยมีฤทธิ์ยับยั้งการทำงานของเอนไซม์ cyclooxygenase และ lipoxygenase และมีฤทธิ์ยับยั้งการสร้างสาร prostaglandin และ thromboxane ที่ก่อให้เกิดการอักเสบ นอกจากนี้สาร eugenol และ isoeugenol มีฤทธิ์ต้านการเกาะกลุ่มของเกล็ดเลือดได้ดีกว่ายาแอสไพริน และฤทธิ์การยับยั้งนี้จะเพิ่มมากขึ้นถ้าใช้สารทั้งสองร่วมกัน
ฤทธิ์ต้านออกซิเดชั่น:
สารสกัดปิโตรเลียมอีเทอร์และไดคลอโรมีเทน มีฤทธิ์ต้านออกซิเดชั่นได้ดี และฤทธิ์ดีกว่าสารสกัดเมทานอล สารสำคัญที่ออกฤทธิ์คือ สาร eugenol น้ำมันกานพลูมีฤทธิ์ปกป้องตับจากสารอะฟลาทอกซิน โดยมีกลไกต้านออกซิเดชั่น
ฤทธิ์ต้านมะเร็ง:
ชาชงกานพลูมีฤทธิ์ต้านมะเร็งปอดในหนู โดยมีกลไกทำให้เซลล์ตายแบบ apoptosis และยับยั้งการแพร่กระจายของเซลล์มะเร็ง (anti-proliferative) และมีผลยับยั้งการก่อเกิดมะเร็งผิวหนังในหนู สารกลุ่ม triterpenoids (oleanolic acid, crategolic acid) มีฤทธิ์ยับยั้งการแบ่งตัวของเซลล์มะเร็ง สารสกัดเมทานอล สาร trans-isoeugenol , eugenol, dehydrodieugenol และ trans-coniferyl aldehyde มีฤทธิ์ต้านการก่อเกิดมะเร็งในหลอดทดลอง
ฤทธิ์ลดน้ำตาลในเลือด:
กานพลูมีฤทธิ์คล้ายอินซูลินในการลดน้ำตาลในเลือด
ฤทธิ์กระตุ้นความรู้สึกทางเพศ:
สารสกัดแอลกอฮอล์ 50% มีฤทธิ์กระตุ้นความรู้สึกทางเพศของหนูเพศผู้ปกติ
ฤทธิ์เป็นยาชาเฉพาะที่:
สาร ?-caryophyllene มีฤทธิ์เป็นยาชาเฉพาะที่ ทั้งการศึกษาในสัตว์ทดลองและหลอดทดลอง
ฤทธิ์ต่อเอนไซม์ cytochrome P450:
กานพลูมีผลต่อเอนไซม์ cytochrome P450 ชนิด 2C9 และ 2D6 เล็กน้อย ซึ่งมีผลต่อการเผาผลาญของยาอื่นๆที่ใช้ร่วมกันได
ฤทธิ์อื่นๆ:
น้ำมันหอมระเหยมีฤทธิ์ต้านการบีบตัวของหลอดลม และลำไส้หนู การฉีดสาร eugenol และ caryophyllene เข้าเส้นเลือดดำหนู ในขนาดยาสูง (200-400 มิลลิกรัม/กิโลกรัม) ทำให้เกิดเสพติดและการให้ขนาดยาที่ต่ำ (1-100 มิลลิกรัม/กิโลกรัม) จะทำให้สงบ สาร -caryophyllene มีฤทธิ์ชาเฉพาะที่และสาร eugenol มีฤทธิ์ทำให้หลอดเลือดคลายตัวและต้านการอาเจียน (นพมาศและนงลักษณ์, 2551) มีฤทธิ์ลดการบีบตัวของลำไส้ ทำให้อาการปวดท้องลดลง ช่วยขับน้ำดี ลดอาการจุกเสียดที่เกิดจากการย่อยไม่สมบูรณ์ และฆ่าเชื้อแบคทีเรียหลายชนิด เช่น เชื้อไทฟอยด์ บิดชนิดไม่มีตัว กระตุ้นการหลั่งเมือก และลดความเป็นกรดในกระเพาะอาหาร
ข้อควรระวังการใช้กกานพลู
สำหรับหญิงที่อยู่ระหว่างการตั้งครรภ์ควรหลีกเลี่ยงการใช้น้ำมันหอมระเหยกานพลู หญิงให้นมบุตร เด็ก ผู้ป่วยโรคตับไต และผู้ป่วยเบาหวาน เว้นแต่จะได้รับคำแนะนำจากแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญ
ที่มา :
1. เว็บไซต์สำนักงานโครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี
2. วิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
3. สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)
4. ฐานข้อมูลเครื่องยาสมุนไพร คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี
| หน้าที่เข้าชม | 2,237,684 ครั้ง |
| ผู้ชมทั้งหมด | 1,832,901 ครั้ง |
| เปิดร้าน | 13 เม.ย. 2558 |
| ร้านค้าอัพเดท | 18 ก.ย. 2568 |